joker gaming
joker gaming joker gaming
slotxo slotxo
pg slot pg slot

the imitation game

the imitation game

the imitation game รีวิวภาพยนตร์ความเป็นจริงของ Alan Turing

the imitation game ภาพยนตร์หัวข้อนี้สร้างรวมทั้งปรับเปลี่ยนจากความเป็นจริงของ Alan Turing (Benedict Cumberbatch หรือ Sherlock Holmes จากซีรีส์ดัง Sherlock) นักเลขสุดอัจฉริยะจาก Cambridge ซึ่งสามารถสร้างสรรค์เครื่องจักรกลถอดรหัส Enigma ของข้าง Nazi ได้ รวมทั้งทำให้เกมกลับ เครื่องยนต์ของเขาทำให้ข้าง Allies ชนะสงครามโลกครั้งลำดับที่สอง ทั้งยังยังฯลฯเกิดของคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ๆกันอยู่ในตอนนี้อีกด้วย

the imitation game
(L-R) Keira Knightley, Matthew Beard, Matthew Goode, Benedict Cumberbatch, and Allen Leech star in THE IMITATION GAME.

เว้นเสียแต่เรื่องราวความอัจฉริยะของ Alan Turing สำหรับในการแก้ปัญหา ถอดรหัส รวมทั้งการประดิษฐ์สร้างสรรค์ หนังเน้นย้ำถ่ายทอดลักษณะนิสัยส่วนตัวและก็ชีวิตส่วนตัวของเขาตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งวัยชายหนุ่ม โดยยิ่งไปกว่านั้นเงื่อนเรื่องความรักที่ในยุคนั้นนับว่าเป็นเรื่องต้องห้ามและก็ไม่ถูกกฎหมายในประเทศอังกฤษ

*FYI: Alan Turing = “Father of Theoretical Computer Science and Artificial Intelligence” (ไม่ใช่ Bill Gates หรือ Steve Jobs)

the imitation game

รีวิว/วิภาควิจารณ์ THE IMITATION GAME

พวกเราชูให้ The Imitation Game เป็นหนังปรับเปลี่ยนชีวประวัติของบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งที่ทศวรรษ การเล่าเรื่องไม่มีเบื่อแบบสารคดีคร่ำครึ ถ้าเกิดแต่ว่ามีการลำดับภาพสลับไปๆมาๆ ระหว่างสถานะการณ์ในปี 1920s (วัยศึกษา), 1940s (ตอนการศึก), 1950s (พักหลังการรบ) และก็จบที่ปี 1954 ซึ่งเป็นปีที่พ่อที่คอมพิวเตอร์คนนี้จากโลกไปอย่างไม่สงบ

การลำดับภาพลักษณะดังที่กล่าวถึงมาแล้วเป็นการเล่นกับสมองผู้ชม เสมอเหมือนการต่อตัวต่อ “ชีวิตของอลัน ทูริ่ง” ไปด้วย โดยรวมหนังทำเป็นดี และก็ส่งให้ได้เข้าชิงออสการ์สาขาลำดับภาพเยี่ยมยอด

ดูเหมือนจะทุกคนคงจะคิดเห็นเช่นเดียวกันว่าสิ่งที่เยี่ยมที่สุดในหนังประเด็นนี้เป็นการแสดงอันมีเสน่ห์และก็มีพลังของ Benedict Cumberbatch เขารับผิดชอบหน้าที่ Alan Turing เจริญมากมาย เอาอยู่หมดอีกทั้งในร่างเนิร์ด ร่างเฮิร์ต ร่างโกรธ หรือร่างกวน จะว่าไปแล้ว ติดอยู่แรกเตอร์รวมๆก็คล้ายกับในตอนที่เขาเป็นสายลับ Sherlock Holmes นั่นแหละ แต่ว่าออกจะมีมิติสลับซับซ้อน ลึกลับ แล้วก็น่าค้นหากว่ามากมาย

พวกเราคิดภาพคนใดมารับบทนี้ไม่ออกเลยจริงๆเว้นเสียแต่ Benedict Cumberbatch คนนี้แค่นั้น เขาเหมาะสมกับบทอัจฉริยะกวนส้นที่พูดจาฉับๆๆที่สุดแล้ว เป็นโดยเบื้องต้นเบ้าหน้าเขาเป็นคนฉลาดหลักแหลม ดูแล้วมั่นใจว่าเป็นนักคิดค้นนักคิดค้น (ไม่ราวกับ Blackhat ด้ามจับเทพเทวดา six-pack มาเป็น hacker อุ๊ปส์!) ด้วยเหตุผลดังกล่าว อย่าจับ Benedict ไปเป็นมังกรอีก เสียดายของ

สำหรับออสการ์สาขาผู้แสดงนำฝ่ายชาย บท Alan Turing ของ Benedict Cumberbatch คล้ายกับบท Chris Kyle พลแม่นปืนในตำนานชาติมะกันที่แสดงโดย Bradley Cooper ใน American Sniper ซึ่งได้เข้าชิงเช่นเดียวกัน แม้กระนั้นเป็นวีรบุรุษคนละอย่างคนละสมัย กล่าวอีกนัยหนึ่ง Chris Kyle เป็นวีรบุรุษที่ถือปืนอยู่ตรงหน้าในสนามรบอิรัก แม้กระนั้น Alan Turing เป็นวีรบุรุษที่ถอดรหัสอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังในยุคสงครามโลก

ทั้งคู่คนข้างต้นทำเป็นดีไม่มีที่ว่ากล่าว แต่ว่าพวกเรารู้สึกว่าบทของพวกเขายัง suffer หรือ drama น้อยเกินไปที่จะคว้าออสการ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Benedict Cumberbatch เนี่ย เล่นดีตีบทแตกกระจายเลย แม้กระนั้นมิได้เซอร์ไพรส์มากแค่ไหน ด้วยเหตุว่าออกจะคงตัวจากซีรีส์ Sherlock แล้วก็ในที่สุดรางวัลสาขาดารานำชายดี ก็เลยเป็นของ Eddie Redmayne จาก The Theory of Everything เป็นระเบียบเรียบร้อยสถานศึกษา Cambridge

รวมทั้งนักแสดงที่ดีเด่นรองลงมาแล้วก็ได้เข้าชิงทั้งยังลูกโลกทองแล้วก็ตุ๊กตาทองคำเป็นนางเอก Keira Knightley ที่แสดงเป็น Joan Clarke พวกเราถูกใจเวลาสองคนนี้อยู่ร่วมกัน และก็ถูกใจการใช้คำว่า “like you” พวกเราถูกใจการเล่นคำคำนี้ เนื่องจากว่าในภาษาอังกฤษ “like you” สามารถนำไปใช้ได้มากกว่าบริบท “ถูกใจคุณ” แต่ว่ามันนำไปใช้ว่า “เสมือนคุณ” ได้ด้วย (หนังไม่ได้ตั้งใจจะสื่อมาแบบนั้นหรอก พวกเราคิดต่อยอดของพวกเราเอง)

ค้างแรกเตอร์ของ Joan Clarke คุณเป็นสตรีที่มีความคิดความฉลาดดุจเป็น “Alan Turing ในร่างสตรี” เป็นเสมือนมากมาย นอกจากความประพฤติปฏิบัติที่จะผ่องใสกว่าแล้วก็เข้าสังคมเก่งกว่า มิได้ geek แบบ Alan Turing

คนหลายท่าน รวมทั้งหลานสาวที่ยังมีชีวิตอยู่ของ Alan Turing แย้งว่าหนัง aggressive แล้วก็ติดอยู่แรกเตอร์ผู้แสดงสติไม่ดีจากความจริงไปเสียหน่อย โดยยิ่งไปกว่านั้น Keira Knightley ที่ทำให้ Joan Clarke แตกต่างจากตัวจริงอยู่มากมาย เนื่องจากตามหลักแล้ว Joan Clarke ตัวจริงจะต้องมองปกติมากยิ่งกว่านี้ ไม่ใช่ต้องการเป็นคนไม่ธรรมดาแบบที่ในหนังถ่ายทอด

หรือจนกระทั่งตัวแมชชีนที่ Alan Turing สร้างสรรค์มาฟาด Enigma ของเยอรมันนั้น จริงๆในแวดวงคอมพิวเตอร์เขารู้จักกันในชื่อ “Bombe” แม้กระนั้นในหนังกลับเอาชื่อเพื่อนรักวัยศึกษาของ Alan Turing มาตั้งแทน เพื่อสร้างความดราม่าให้พีคขึ้นไปอีกนั่นเอง

แต่ ความไม่เหมือนหรือการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขทั้งปวงทั้งหลายทั้งมวลที่หนังสร้างขึ้นนั้น พวกเราคิดว่ามันทำไปในทางที่ดี มันเป็นสีสันที่ทำให้หนังขายได้ ฉะนั้น พวกเราว่าผู้กำกับฯ มาถูกทางแล้ว แทนที่จะทำหนังเล่าจริงอันจืดชืดๆชืดๆของนักคณิตคนหนึ่ง หรือหาดาราที่ใบหน้าหรือบุคลิกลักษณะท่าทีเหมือนตัวจริงมาเล่นตามค้างแรกเตอร์จริงของตัวจริงเด๊ะๆก็อาจจะไม่น่าไปดูเท่าไรนัก

ความเข้มข้นแล้วก็ความน่าดึงดูดใจมันอยู่ที่ การถ่ายทอดว่า Alan Turing ตัวจริงเขา “รู้สึกนึกคิด” อะไรอยู่ในขณะนั้น มากยิ่งกว่าสิ่งที่ Alan Turing ตัวจริงเขา “แสดง” ออกมา ซึ่งเดี๋ยวนี้ออสการ์มาช่วยประกันแล้วว่าหนังทำออกมาได้ดิบได้ดี พูดอีกนัยหนึ่ง The Imitation Game เข้าชิงและก็ได้รับรางวัลบทปรับเปลี่ยนดีที่สุดอีกสาขานั่นเอง

The Imitation Game โดยรวมมิได้เป็นหนังที่บทเฉลี่ยวฉลาดล้ำ เรื่องราวสลับซับซ้อนลึกลับซับซ้อนมาก หรือจะต้องตีความหมาย 99 ตลบ เสมือนหนังของ Nolan แต่ว่าก็เป็นหนังที่ไดอะล็อกเฉลี่ยวฉลาด บทสนทนาแยบยล จังหวะรับส่งดี มุกขบขันไม่ตลาด การแสดงออกทางอวัจภาษาดีเลิศ ภาพต่างๆดูแล้วเพลิดเพลินใจเบิกบานดี อาจมีงงงวยกับภาษารหัสลับของมันบ้าง แม้กระนั้นนั่นมันก็บันเทิงใจชักชวนติดตามดี สิ่งที่สลับซับซ้อนที่สุดแล้วก็น่าค้นหาที่สุดในเรื่องก็คงจะเป็นติดอยู่แรกเตอร์ของ Alan Turing นี่แหละ ซึ่ง Benedict Cumberbatch เอาอยู่หมด อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

ข้อด้อยที่พวกเราจะแย้งสำหรับ The Imitation Game ก็คงเกิดเรื่องที่เขาพากเพียรแออัดยัดเยียดความดราม่ามากพอยท์จนถึงเหลือเกิน ก็ไม่รู้เรื่องว่าเพราะเหตุไรเสมือนหนังมองมีความบากบั่นดราม่าตลอดระยะเวลา บางจุดมันก็โอเค เนื่องจากต้องต่อการเดินเรื่อง แต่ว่าบางจุดมันก็มิได้จำเป็นจะต้องมีดราม่าถ้าอย่างนั้นก็ได้ ทางเข้า xo

แต่ว่าก็อย่างที่รู้กัน จะเข้าตาออสการ์ก็ควรจะมีดราม่าหนักๆล่ะเนอะ ดังเช่นว่า ใน The Imitation Game ก็ให้ความเอาใจใส่มากมายสุดที่ดราม่าหลักสำคัญ “คนขอบ” อย่างกลุ่มของผู้คนเพศลำดับที่สาม (ซึ่งในยุคนั้นยังมิได้รับการยินยอมรับ ใครกันแน่ที่จิตวิปริตเพศวิปลาศต่างจากธรรมชาติต้องถูกจำตาราง) คิดซะว่าอย่างต่ำมันก็ยังดีที่ความดราม่านั้นหนังเขาทำออกมาได้ออกจะดึงอารมณ์ เล่าก้าวหน้า และก็ชักชวนอินอยู่บ้าง

โดยรวมหนังจะมิได้ทำให้พวกเรารู้จักกับ Alan Turing เท่าไรนัก แต่ว่าขั้นต่ำพวกเราก็ได้รู้จักว่าเขามีตัวตน และก็ช่วยเหลือคนกว่า 14 ล้านคนเอาไว้ภายในสมัยสงครามโลก (แบบปิดทองหลังพระ) เพราะว่าจุดสำคัญของหนังเป็น เขาต้องการที่จะให้ผู้ชมเข้าถึงว่ามันรู้สึกอย่างไรกับ “การเป็น Alan Turing” มากยิ่งกว่า

โดย The Imitation Game จะพาพวกเราไปเข้าถึงความรู้สึกของอัจฉริยะคนนึง คนที่เคยเป็นเฟืองเล็กๆของระบบขนาดใหญ่ คนที่จำต้องปฏิบัติงานอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังแล้วก็อยู่ภายใต้การกดดันเพื่อล้มล้างที่นาซี แถมยังจำต้องปกปิดสถานภาพทางเพศของตนอีก

เรื่องความไม่เสมอภาคทางเพศ การขวางกั้นทางเพศ หรือ gender stereotypes เป็นข้อความสำคัญที่ดราม่ามากมายในช่วงนั้น (กรณีศึกษาของอเมริกาในยุคเดียวกัน พวกเราเคยเขียนเอาไว้ในบล็อกเรื่อง Big Eyes และก็ Mona Lisa Smile) ซึ่งพวกเราทั้งหลายแหล่โชคดีแล้วที่เกิดมาในสังคมที่เปิดกว้างมากเพิ่มขึ้น

แล้วพวกเราก็มั่นใจว่า The Imitation Game จะเป็นวัสดุ mass media หรือหนังอีกหนึ่งเรื่อง ที่จะสามารถช่วยให้ gay community หรือกลุ่มของผู้คนริมกลุ่มนี้ ได้รับการยินยอมรับเยอะขึ้นเรื่อยๆอีกระดับในสังคม และก็เมื่อพวกเขาสามารถ “เป็นตัวเอง” ได้อย่างมาก มันก็จะไม่มีอะไรมาลิมิตความสามารถหรือจินตนาการการผลิตสรรค์ของพวกเขาอีกต่อไป สล็อตxo

เว้นเสียแต่เรื่องเพศลำดับที่สาม หนังยังเพิ่มเลเวลความดราม่าเรื่องเพศให้กับสตรี เขาตั้งมั่นเขียนค้างแรกเตอร์ของ Joan Clarke ใหม่ จากตัวจริงที่เป็นเพียงแค่หญิงสาวแสนปกติ แปลงเป็นนักแสดงที่มีความพิเศษรวมทั้งเด่นกว่าความจริง เป็นผู้แทนสตรีที่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพด้านการทำงานและก็การออกเรือน

เนื่องจากในยุคนั้นบุตรสาวจำเป็นต้องอยู่ในโอวาทของบิดามารดา แล้วก็หญิงก็ยังมิได้รับการยินยอมรับจากสังคมให้ดำเนินงานในตำแหน่งหลักๆพิจารณาได้ว่าในหนัง หญิงจะถูกวินิจฉัยแต่ว่าเนิ่นๆเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ฉากนางเอกเดินเข้ามาในห้องทดลอง หรือฉากที่เพศชายวิภาควิจารณ์แฟชั่นหมวกของเพศหญิง (เขียนไปเขียนมา วิญญาณ feminist สิงอิชั้นอีกแล้วจ้ะ!)

“SOMETIMES, IT IS THE PEOPLE NO ONE IMAGINES ANYTHING OF WHO DO THE THINGS THAT NO ONE IMAGINES.”

ประโยคนึงที่บอกเป็นประจำในหนังเป็น “Sometimes, it is the people no one imagines anything of who do the things that no one imagines.” โดยหนังจะก่อให้พวกเรามีความคิดเห็นว่า การคิด แนวทางการทำ หรือการเป็นอะไรที่ “ไม่เหมือนกัน” มันมิได้หมายความว่า “แตกต่าง” เสมอ บางโอกาส “ไม่เหมือนกัน” ก็ก่อให้เกิดการ “เปลี่ยน” ที่ยิ่งใหญ่เสียมากกว่า

แต่ว่าโน่นก็จำต้องไม่ใช่ประพฤติตนสุดโก่งไหมเอาผู้ใดกันซะทีเดียว อย่างเคสของ Alan Turing ถ้าเกิดเขายังคงนิสัยไม่เอาคนไหนเลยของเขาอยู่ เขาก็บางทีอาจทำเครื่อง Bombe ไม่ประสบผลสำเร็จ แล้วก็สงครามโลกบางครั้งอาจจะจะต้องไม่จบสิ้นออกไปอีกกว่า 2-3 ปี (ซึ่งพอๆกับการสูญเสียอีกหลายล้านชีวิต)

แล้วอีกหนึ่งอย่างที่หนังสอนผู้ชมเป็น เรื่องเกี่ยวกับการวินิจฉัยคนสักคนหรือวินิจฉัยอะไรสักอย่าง รวมทั้งโน่นเป็นหนึ่งในมูลเหตุที่หนังควรจะชื่อ The Imitation Game ซึ่งเป็นเกมที่ Alan Turing คิดขึ้น เพื่อวินิจฉัยว่านี่คนหรือคอม (Turing Test) ในหนัง พวกเราจะมองเห็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการ “วินิจฉัย”, “ตัดใจ”, รวมทั้ง “ตกลงใจ” อยู่เกือบจะตลอดเรื่องสล็อต

“AM I A WAR HERO? OR AM I A CRIMINAL?”

โดยตามหลักแล้วพวกเราทุกคนไม่มีสิทธิไปวินิจฉัยผู้ใดก็ได้ โดยการเอาไม้บรรทัดของตนเองไปวัดคนอื่นๆ ดังเช่น แม้ขั้นตอนการคิดของคอมพิวเตอร์จะไม่เหมือนกับของคนเราไปบ้าง แต่ว่าความไม่เหมือนโน่นก็มิได้หมายความว่ามันจะคิดไม่เป็น (ไม่แน่บางที บางทีอาจคิดได้ถูกต้องแม่นยำกว่าคนเสียด้วยซ้ำ สำหรับบางครั้ง) หรือ rookie ในสายตาพวกเรายุคเรียนนั้น อีกสิบปีด้านหน้า เขาบางทีก็อาจจะเป็น hero ที่ช่วยเหลือพวกเรารวมทั้งครอบครัวพวกเราเอาไว้ก็ได้

ยิ่งกว่านั้น มันก็อาจจะผิดจำต้องซะทีเดียวเช่นเดียวกัน ที่พวกเราจะตกลงใจใครบางคน โดยการเอา “ส่วนเพียงแค่ส่วนเดียว” ที่เขาเป็นหรือที่เขาทำเป็นตัวชี้ชะตา ตามหลักแล้วพวกเราไม่มีสิทธิไปวินิจฉัยคนใด ถ้าหากพวกเรามิได้มองเห็นหรือรู้เรื่องชีวิตของคนคนนั้นครบทุกมุมทุกเมื่อ (ซึ่งแน่ๆ ทุกคนล้วนมีความลับของตน ก็เลยไม่มีผู้ใดเข้าใจของผู้ใดทั้งผองอยู่ดี) ตัวอย่างเช่น พวกเราจะไม่ว่า Alan Turing เลยที่ถูกใจเก็บเนื้อเก็บตัว ถ้าเกิดรู้ดีว่าในยุคเรียน เขาพบกับอะไรมาบ้าง

“Popular at school, were you?”

กรณีของ Alan Turing เขาถูกวินิจฉัยต่างกันในแต่ละบริบททางด้านสังคม ในทางการทำงาน หรือในฐานะนักเลขคณิต-นักคิดค้นผู้มีอิทธิพล เขาเป็นวีรบุรุษที่ช่วยชาติชนะสงครามแล้วก็ช่วยเหลือคนบริสุทธิ์อีกนับล้าน เขาได้รับอีกทั้งการยินยอมรับรวมทั้งชมเชยในวิชาความรู้ความรู้ความเข้าใจ แต่ว่าอีกแง่หนึ่ง เขากลายเป็นผู้ที่สังคมเกลียดดูแคลน เพียงแต่เพราะเหตุว่าเขามีความเห็นความชื่นชอบหรือมีรสนิยมทางเพศไม่เสมือนคนกลุ่มมากมาย

การช่วยชาติบางทีอาจเคราะห์ดี แต่ว่าการเป็นเกย์นั้นเป็นบาปที่หนักกว่า กระนั้นหรือ? (พวกเราไม่รู้จักว่าในคัมภีร์ไบเบิลเขียนถึงคนพวกนี้ว่ายังยังไงนะ นี่แถอยู่) อืม… หากเป็นแบบนั้นจริงๆคนภายในสมัยนั้นก็คงให้ความเอาใจใส่กับ “สิ่งที่เขาเป็น” มากยิ่งกว่า “สิ่งที่เขาทำ” สิเนอะ แม้กระนั้นนั่นแหละ พวกเราจะเอาเดี๋ยวนี้ของพวกเราไปวินิจฉัยสมัยก่อนของเขาก็ท่าจะผิดจำเป็นต้องอีก อีกอย่าง… ในตอนนี้ก็ยังมีผู้ที่มีระบบระเบียบความนึกคิดแล้วก็การวินิจฉัยคนอย่างงั้นคงเหลือ… บอกยาก

“Am I a war hero? Or am I a criminal?”

ไม่ใช่แค่ปัญหาที่ Alan Turing ถามข้าราชการในหนัง แม้กระนั้นเขาถามเราผู้ชมทั้งหลายแหล่ด้วย ว่าภายหลังมองจบแล้ว พวกเราวินิจฉัยเขาอย่างไร พวกเราวินิจฉัยเขาได้ไหม ซึ่งเพียงพอถึงจุดนั้น พวกเราบางครั้งก็อาจจะถามตนเองก็ได้ว่า “ปัญหานี้ยังจำเป็นจะต้องอยู่มั้ย?”

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม Witch’s Brew math games เกม ark

อัพเดทล่าสุด : 9 สิงหาคม 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)